ทำไมต้องเปลี่ยนมาใช้ LED

ทำไมถึงประหยัดไฟกว่าหลอดชนิดอื่น

             หลักการทำงานของ LED ไม่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าในการจุดไส้หลอด ภายใน LED จะมีชิ้นส่วนเล็กๆ ซึ่งเมื่อกระแสไหลผ่าน จะมีการแลกเปลี่ยนอิเล็กตรอนของสารกึ่งตัวนำทำให้เกิดแสงสว่าง LED จึงใช้กระแสไฟต่ำกว่าในการให้แหล่งกำเนิดแสงสว่างและความร้อนที่เกิดขึ้นก็ต่ำด้วย ข้อดีนี้เองทำให้เมื่อนำไปติดภายในตู้เย็นหรือภายในห้องที่เปิดเครื่องปรับอากาศก็จะช่วยให้เครื่องปรับอากาศทำงานน้อยลงประหยัดไฟมากขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิไม่สูงเท่าหลอดไฟทั่วไป


 

LED ที่เหมาะกับขนาดของห้อง

             การเลือกหลอดไฟ LED ตามความสว่างและจำนวนของหลอดให้เหมาะสมกับพื้นที่ของห้องแต่ละห้องนั้น มีประโยชน์อย่างมากในการประหยัดงบประมาณและได้แสงที่เพียงพอตามความต้องการ นำมาสู่บรรยากาศที่น่าอยู่และสบายตาภายในบ้าน ต่อไปนี้ผมจะขอแนะนำการติดตั้งหลอดไฟ LED ในห้องต่างๆ โดยบอกถึงปริมาณวัตถ์ จำนวนหลอด และขนาดห้องที่ใช้ครับ

 


1.ห้องครัว

ห้องครัวขนาดห้อง 15 ตร.ม. ใช้หลอดไฟ LED 5 w  10 หลอด

 

ห้องครัวขนาดห้อง 20 ตร.ม. ใช้หลอดไฟ LED 7 w  8   หลอด

 

ห้องครัวขนาดห้อง 25 ตร.ม. ใช้หลอดไฟ LED 10 w   8  หลอด


 

2.ห้องทำงาน

 

ห้องทำงานขนาดห้อง 15 ตร.ม. ใช้หลอดไฟ LED 5 w  10 หลอด

 

ห้องทำงานขนาดห้อง 20 ตร.ม. ใช้หลอดไฟ LED 7 w  8 หลอด

 

ห้องทำงานขนาดห้อง 25 ตร.ม. ใช้หลอดไฟ LED 10 w  8 หลอด

 


 

3.ห้องนอน

 

ห้องนอนขนาดห้อง 15 ตร.ม. ใช้หลอดไฟ LED 5 w  4 หลอด

 

ห้องนอนขนาดห้อง 20 ตร.ม. ใช้หลอดไฟ LED 7 w  2 หลอด

 

ห้องนอนขนาดห้อง 25 ตร.ม. ใช้หลอดไฟ LED 10 w  2 หลอด

 


4.ห้องน้ำ,ห้องนั่งเล่น

ห้องน้ำ,ห้องนั่งเล่นขนาดห้อง 15 ตร.ม. ใช้หลอดไฟ LED 5 w  8 หลอด

 

ห้องน้ำ,ห้องนั่งเล่นขนาดห้อง 20 ตร.ม. ใช้หลอดไฟ LED 7 w  6 หลอด

 

ห้องน้ำ,ห้องนั่งเล่นขนาดห้อง 25 ตร.ม. ใช้หลอดไฟ LED 10 w  6 หลอด

 


การเติบโตของการใช้ LED

 

               ผลการสำรวจจากสถาบันวิจัยข้อมูลด้านการตลาด ( IMS  Research ) พบว่าตั้งแต่ปี  2552 – 2563 การขยายตัวของตลาดหลอดไฟฟ้าแสงสว่างมีอัตราการขยายตัวและลดลงของมูลค่าตลาดหลอดไฟฟ้าทั้ง 5 ชนิด ตั้งแต่ หลอดไส้,  หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ (หลอดตะเกียบ), หลอดฟลูออเรสเซนต์ , หลอดความเข้มสูง  (HID : High Intesity Discharge) และหลอด LED

               การเติบโตที่น่าสนใจของหลอด LED  มีแรงผลักดันจากคุณสมบัติและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของหลอด LED    สามารถนำมาออกแบบได้   เมื่อเปรียบเทียบผลการประหยัดค่าไฟฟ้ากับราคาค่าหลอด LED  และอายุการใช้งานที่ยืนยาวแล้ว  ถือได้ว่าหลอด LED มีความคุ้มค่าในการใช้งานในอนาคต  คาดว่าอีก  5 ปี ประมาณปี 2558-2559 จะมียอดการใช้การเติบโตสูงสุด  และยังมีข้อมูลสนับสนุนจาก  “Mckinsey” สถาบันที่การศึกษาเรื่องมาตรการการบรรเทาภาวะโลกร้อนทั่วโลก  ว่าหลอด LED  มีต้นทุนต่ำสุดในมาตรการลดโลกร้อน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น