คำอธิบาย
3 ประเภทของแผงโซล่าเซลล์ ซึ่งเป็น 1 ในปัจจัยในการกำหนดราคาแผงโซล่าเซลล์ ได้แก่
1.Monocrystalline Silicon Solar Cells หรือ โมโนคริสตัลไลน์ : แผงโซล่าเซลล์ประเภทนี้ผลิตจากซิลิคอนเชิงเดี่ยว (Mono-Si) สังเกตได้ง่ายๆ เลยคือแผงโซลล่าเซลล์จะเป็นสี่เหลี่ยมแบบมุมตัด ทั้งสี่มุม และจะมีสีน้ำเงินเข้ม
ข้อดี
– เป็นแผงโซล่าเซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เนื่องจากทำมาด้วยซิลิคอนเกรดดี ประสิทธิภาพในการเปลี่ยนแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยเฉลี่ย 15-20 %
– แผงโมโนคริสตัลไลน์ สามารถผลิตกระแสไฟฟฟ้าได้เกือบ 4 เท่าของแผงโซล่าเซลล์แบบฟิล์มบาง
– มีอายุการใช้งงานที่ยาวนาน ประมาณ 25 ปี ขึ้นไป
– ผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากกว่าแผงโซล่าเซลล์ชนิดอื่นๆ
ข้อเสีย
– มีราคาสูง มากกว่าแผงโซล่าเซลล์ประเภทอื่นๆ
– หากแผงได้รับความสกปรก หรือมีคราบฝุ่นบดบังแสงอาทิตย์ อาจทำให้อินเวอร์เตอร์ไหม้ได้
2.Polycrystalline Silicon Cells หรือ โพลีครัสตัลไลน์ : แผงโซล่าเซลล์ประเภทนี้ผลิตจากผนึกซิลิคอน โดยการนำเอา ซิลิคอนเหลวมาเทใส่โมลด์สี่เหลี่ยม ที่มีมีการตัดมุม ก่อนจะตัดออกมาเป็นแผ่นบางๆ สีของแผ่นโซล่าเซลล์ประเภทนี้ มีสีน้ำเงิน แต่ไม่เข้มมาก
ข้อดี
– ทนทานต่ออุณหภูมิสูง และมีประสิทธิภาพในการใช้งาน
– มีราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับแผงโมโนคริสตัลไลน์
ข้อเสีย
– ประสิทธิภาพในการเปลี่ยนแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยเฉลี่ย 14-16 % ถือว่ายังต่ำกว่าแผงโมโนครัสตัลไลน์
– แผงสีน้ำเงินจางๆ บางครั้งอาจดูไม่สวยงามเหมือนแผงโซล่าเซลล์ที่มีสีน้ำเงินเข้ม เหมือนแผงโมโนครัสตัลไลน์ ซึ่งแผงโมโนครัสตัลไลน์อาจเข้ากับสภาพแวดล้อมหรือมองดูแล้วสบายตามากกว่า
3.Thin Film Solar Cells หรือ แผงโซล่าเซลล์ชนิดฟิล์มบาง : คือ การนำสารที่สามารถแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้ามาฉาบเป็นฟิล์มบางๆ หลายชั้น ส่วนประสิทธิภาพจะมากหรือน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับวัสดุที่นำมาฉาบเป็นฟิล์ม ส่วนใหญ่จะนิยมใช้แผงประเภทนี้กับบ้านเรือนทั่วไป
ข้อดี
– มีราคาถูกกว่าแผงโซล่าเซลล์ประเภทอื่น
– ในสภาพอากาสที่ร้อนมาก แผงโซล่าเซลล์ชนิดฟิล์มบาง มีผลกระทบน้อยกว่า
– ไม่มีปัญหาแผงสกปรกหรือแผงวงจรไหม้
ข้อเสีย
– มีประสิทธิภาพต่ำ
– สิ้นเปลืองอุปกรณ์อื่นๆ เช่น สายไฟ
– มีระยะการรับประกันสั้น